บาร์ซ่าสามารถฟื้น “การฟื้นคืนชีพของปีก” คือคีย์เวิร์ดของการฟื้นฟู
บาร์ซ่าสามารถฟื้น เขารับตำแหน่งโค้ชของบาร์ซ่าในฤดูร้อนปี 1988 และเมื่อเขากลายเป็นผู้จัดการทีมของบาร์ซ่า เขาได้นำแก่นแท้ของการเล่นตำแหน่งที่พัฒนาจากอังกฤษมาเป็นอาแจ็กซ์ในครึ่งแรกของปี ศตวรรษที่ 20 สู่ทีมระดับท็อป
ไม่ใช่แค่ปลูกทั่วทั้งสโมสร ชิกิที่เปิดจนสุดทางซ้ายได้รับการยกย่อง ลักษณะเด่นคือวิธีการใช้ด้านข้าง ครัฟฟ์เน้นปีกทั้งสองข้าง ในรายชื่อ ตำแหน่งยืนนั้นเข้มงวด มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยดังกล่าว มันเป็นช่วงปรีซีซันหลังจากยุคครัฟฟ์เริ่มต้นขึ้น เหตุกังวลอาร์เซนอล
ซิกิ เบกิริสไตน์ (ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการด้านกีฬาของแมนเชสเตอร์ซิตี้) ซึ่งเพิ่งเข้าร่วมเรอัล โซเซียดาด ได้รับโอกาสในการแข่งขันฝึกซ้อม แต่ถูกจมลงเพราะเขาแทบจะไม่สามารถสัมผัสลูกบอลและแสดงบุคลิกของเขาได้ อยู่ที่นั่น
อย่างไรก็ตาม ครัฟฟ์ยกย่องเขา นั่นเป็นเพราะเขาทำตามคำสั่งให้เปิดไปจนสุดทางซ้าย การ์เซีย ปิเมียนตา ซึ่งเป็นผู้นำทีมบีของบาร์เซโลน่าจนถึงฤดูกาลที่แล้ว ทำหน้าที่เป็นปีกในองค์กรรองเซ็นทารา ในขณะนั้น
ดังนั้น ฉันจึงได้รับผลกระทบอย่างมากจากการปฏิรูปของครัฟฟ์ “ทุกอย่างในหมวดหมู่ของสโมสรเปลี่ยนไปตั้งแต่เนื้อหาการฝึกซ้อมไปจนถึงสไตล์การเล่น รูปแบบขึ้นอยู่กับ 3-4-3 แต่แนวรับไม่ใช่สามเซ็นเตอร์แบ็ค อย่างที่เป็นอยู่
แต่หนึ่งเซ็นเตอร์แบ็ค ดังนั้นจึงมี ซูเปอร์โบว์ลสองอัน ที่โจมตีบ่อย กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตำแหน่งของปีกกลายเป็นสิ่งสำคัญมากเพราะทุกคนที่ไม่ใช่เซ็นเตอร์แบ็ค ที่แท้จริงเป็นผู้บุกโจมตี” ครัฟฟ์มีผู้เล่น 20 คนอยู่ข้างเขา
เช่นเดียวกับชิกิที่รักษาคำแนะนำ ปีกทั้งสองของบาร์เซโลน่าจะต้องยืนตรงแนวรับและดึงดูด ซูเปอร์โบว์ลของคู่ต่อสู้เสมอ การทำเช่นนี้เป็นไปได้ในการสร้างสถานการณ์ที่เป็นประโยชน์มากขึ้นสำหรับ ซูเปอร์โบว์ลที่วิ่งขึ้นพร้อมกับคนสี่คนที่อยู่ตรงกลางสนาม
“เมื่อผมเสียบอล มันยากที่จะเปลี่ยนไปใช้แนวรับ แต่มันเป็นรูปแบบใหม่ทั้งหมด หลังจากนั้น รูปแบบเปลี่ยนไปเป็น 4-3-3 แต่แนวคิดในการเน้นปีกยังคงเหมือนเดิม”
บาร์ซ่าสามารถฟื้น ในช่วงแปดฤดูกาลก่อนที่เขาจะถูกไล่ออกในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2539
ครัฟฟ์มีผู้เล่นทั้งหมด 20 คนอยู่ข้างเขา และลูกศิษย์สายตรงของเขา กวาร์ดิโอล่า ใช้คนทั้งหมด 21 คนในสี่ฤดูกาลตั้งแต่ปี 2008 ถึง 2012 ปีกเป็นตัวเลขที่ย้ำว่าจำเป็นสำหรับฟุตบอลบาร์เซโลน่าลินิเกอร์ และสตอยคอฟ ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นปีกเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทั้งหมดที่เป็นปีกของแท้ ตัวอย่างเช่นครัฟฟ์ มีลินิเกอร์, สตอยคอฟ , ฮาจิ เป็นต้นและกวาร์ดิโอลา มีผู้เล่นเช่น เอโต, อองรี, อิเนียสต้า, วิลล่า เช่นเดียวกับริวัลโด ภายใต้ฟานกัล และโรนัลดินโญ่
ในช่วงเวลาไรจ์การ์ด นั่นคือวิธีเพิ่มความแข็งแกร่งของผู้เล่นในขณะที่ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางยุทธวิธี นี่เป็นคุณลักษณะของ “บาร์เซโลน่า วิง” ครัฟฟ์อธิบายว่าทำไมเขาถึงใช้ลินิเกอร์ และสตอยคอฟ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งเดิมในปีก
“เราทั้งคู่ต่างก็มีความเร็ว ผู้เล่นที่ว่องไวต้องการพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์จากมัน อย่างไรก็ตาม เรามักจะบุกรุกฝ่ายตรงข้าม ดังนั้นระยะห่างจากตำแหน่งกองหน้าถึงเป้าหมายจึงสั้น ดังนั้นพวกเขาจึงเล่นเป็นปีกแม้ว่าพวกเขาจะ ไม่ใช่ปีกมืออาชีพของพวกเขา”
ผู้เล่นที่โดดเด่นทางเทคนิคก็เหมาะกับปีกปลอมเช่นกัน นี่เป็นเพราะว่ามันเป็นมาตรฐานของการเล่นตามตำแหน่งที่จะพลิกผ่านอย่างรวดเร็วด้านหนึ่งเพื่อดึงคู่ต่อสู้และสะกิดอีกด้านหนึ่งที่การป้องกันอ่อนแอ หากมีริวัลโด้, โรนัลดินโญ่ และอิเนียสต้า บ้านผลบอล
มันง่ายที่จะสร้างโอกาสทำประตูสำคัญ สั่งปีกปลอมให้กาบี อย่างไรก็ตาม อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกข้างบาร์เซโลน่า ไม่ว่าจะเป็นปีกหรือปีกปลอม? ลักษณะของเปโดรซึ่งบางครั้งถูกกล่าวถึงว่าเป็น “ปีกที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของบาร์เซโลนา”
จะเป็นคำตอบตามที่เป็นอยู่ ปิเมียนตะเป็นผู้ประเมินลักษณะของเขา “แน่นอนว่าด้านเทคนิคนั้น ด้านแท็คติกนั้นยอดเยี่ยม อาจเป็นเพราะมันเป็นปีก แต่เมื่อใดที่ฉันควรเข้าไป เมื่อไหร่ที่ฉันควรกระโดดออกไปในอวกาศ เมื่อใดที่ฉันควรปิดระยะห่างกับพันธมิตรของฉัน และควรเปิดเมื่อไร รู้ดี”
หลังจากใช้เวลา 24 ปีในบาร์เซโลน่า รวมถึงเซ็นทารา ชาบีที่รู้ถึงแก่นแท้ของฟุตบอลกำลังมุ่งเน้นไปที่การรื้อฟื้นปีกของบาร์เซโลนาซึ่งหายไประยะหนึ่งในฐานะโค้ช เขาเปิดตัวจูกรา และอีเลียด ของทีมบี เชิญอารันดา มาฝึกซ้อมให้กับทีมชั้นนำ ให้อับเด พลิกตัวอย่างต่อเนื่อง
และสั่งให้กาบี ปลอมปีก ในขณะเดียวกัน ดูเหมือนว่าเดมเบเล่จะเข้าใจความต้องการของชาบี และอันซู ฟาติที่หายตัวไปนานเนื่องจากอาการบาดเจ็บ จะกลับมาในไม่ช้า คนสองคนของทั้งสองฝ่ายจะเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของบาร์เซโลนาซึ่งขาดอยู่ในอันดับที่ 7 หลังจาก 18 เกม
บาร์เซโลน่าตั้งเป้าที่จะชนะโมราต้าในฤดูหนาวนี้! จิบิมุ่งมั่นที่จะชนะการรายงานข่าวของสื่อสเปน |ลาลิกา
ดูเหมือนว่าบาร์เซโลน่าจะตั้งเป้าที่จะคว้าตัวอัลบาโร่ โมราต้ากองหน้าของยูเวนตุส สื่อสเปนเช่น “มาร์กา” และรายงาน ชาบี กุนซือบาร์เซโลน่า กล่าวว่า “ผมตั้งเป้าเพื่อแชมป์ที่ผมสามารถคว้าแชมป์ได้ ผมไม่มีอะไรจะปฏิเสธ”
ปีกหน้าเฟร์รานตอร์เรส กล่าวในตลาดซื้อขายนักเตะช่วงฤดูหนาวนี้ แต่เขาเองก็กระตือรือร้นที่จะคว้าตัวโมราต้าเช่นกัน ว่ากันว่า ว่ามี. จากคำกล่าวของมาร์กา โมราต้าได้รับการติดต่อจากผู้บัญชาการแล้ว และชี้ให้เห็นว่าการดำเนินการสามารถทำได้
โดยสามสโมสร ได้แก่บาร์เซโลน่า, ยูเวนตุส และแอตเลติโกมาดริด และทั้งสามจะได้รับประโยชน์ อย่างแรก แอตเลติโกซึ่งเป็นสังกัดของ โมราต้าจะต้องใช้เงิน 40 ล้านยูโรเพื่อซื้ออ็องตวนกรีซมันน์ ซึ่งกลับมาจากการโอนค่าเช่าจากบาร์เซโลนาในช่วงซัมเมอร์นี้
ขณะเดียวกัน ยูเวนตุส ที่คืนโมราต้าด้วยสัญญาเช่า 2 ปีจากแอตเลติโก ได้จ่าย 15 ล้านยูโรจากราคาซื้อ 55 ล้านยูโร โดยที่เหลือจ่ายประมาณ 40 ล้านยูโร กล่าวอีกนัยหนึ่งหากโมราต้าย้ายไปบาร์เซโลนา
ยูเวนตุส ที่ประสบปัญหาทางการเงินจะไม่ต้องจ่าย 40 ล้านยูโรเพื่อซื้อผู้เล่นและแอตเลติโกก็จะประเมินค่าธรรมเนียมการโอนของโมราต้าเป็น 40 ล้านยูโร ดังนั้นกรีซมันน์ ซื้อได้ แปลว่าไม่ต้องจ่ายเงิน …… ใช่ ไม่ชัดเจนว่าจะได้ผลหรือไม่
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบาร์เซโลน่าจะต้องเคลียร์ระบบเงินเดือนของลาลีกาด้วยการปล่อยตัวนักเตะในฤดูหนาวนี้ เพื่อให้บาร์เซโลน่าได้โมราต้า โมราต้าจะเล่นในมุมสุดท้ายของท็อปทรีของสเปนต่อจากเรอัล มาดริดและแอตเลติโกหรือไม่
