เขาคือตำนาน คล็อปป์ ยกย่อง ดิว็อค โอริชี่ หลังจากที่เขาลงมาจากม้านั่งสำรองในเกมที่ ลิเวอร์พูล ซัดประตูชัยให้กับ เอฟเวอร์ตัน ได้อีกครั้ง
เขาคือตำนาน เจอร์เก้น คล็อปป์ ยกย่อง ดิว็อค โอริชี่ ว่าเป็นตำนานหลังจากที่เขาแนะนำ เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ ที่คลั่งไคล้ช่วยให้ลิเวอร์พูลอยู่ในการไล่ตามแมนเชสเตอร์ซิตีอย่าง ร้อนแรง
โอริชี่ ได้รับการแนะนำในนาทีที่ 60 หลังจากที่ลิเวอร์พูลใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการหายใจและหายใจหอบ และสัมผัสแรกของเขาคือการส่งกลับให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซึ่งการข้ามไปยังเสาด้านหลังทำให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน สามารถทำลายการหยุดชะงักได้
นักเตะทีมชาติเบลเยี่ยมจะออกจากแอนฟิลด์ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยไม่ได้ลงเล่นมากพอที่จะคว้าสัญญาใหม่ แต่เขาจะไปที่เอซี มิลานอย่างสูงที่สุดหลังจากทำประตูที่ 6 ของเขาจาก 9 นัดที่พบกับเอฟเวอร์ตันมีเพียงสตีเวน เจอร์ราร์ด (เก้า เกม) ) มีมากขึ้นในยุคพรีเมียร์ลีก ข่าวจริงไรโอล่า
คล็อปป์กล่าวว่า “เขาเป็นตำนานทั้งในและนอกสนาม” เขาเป็นนักฟุตบอลที่มหัศจรรย์สำหรับฉัน เขาเป็นกองหน้าระดับโลก จบสกอร์ที่ดีที่สุดของเรา เขาเป็นอยู่เสมอ และทุกคนก็พูดแบบเดียวกัน เขาทำมันในการฝึกซ้อม และจากนั้นก็ไม่ได้อยู่ในทีม และนั่นเป็นเรื่องยากจริงๆ การตัดสินใจที่ยากจริงๆ
คล็อปป์กล่าวว่า “เขาเป็นตำนานทั้งในและนอกสนาม” เขาเป็นนักฟุตบอลที่มหัศจรรย์สำหรับฉัน เขาเป็นกองหน้าระดับโลก จบสกอร์ที่ดีที่สุดของเรา เขาเป็นอยู่เสมอ และทุกคนก็พูดแบบเดียวกัน เขาทำมันในการฝึกซ้อม และจากนั้นก็ไม่ได้อยู่ในทีม และนั่นเป็นเรื่องยากจริงๆ การตัดสินใจที่ยากจริงๆ
โอริชี่ เป็นแนวทางของเขาที่ประเมินตัวเองต่ำเกินไป ในฐานะผู้ชายที่มีประตูช่วยให้ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกในปี 2019 ตำแหน่งของเขาในด้านความรักจากกองเชียร์นั้นไม่มีคำถามใดๆ และเขากล่าวว่า: ‘เราเพิ่งทำงานหนักเพื่อสามแต้มและเรามีอะไรมากมายให้ตั้งตารอ’
ลิเวอร์พูลวิ่งไปตามตรอกซอกซอยตลอด 45 นาทีแรก แต่ โอริชี่ และ หลุยส์ ดิแอซ ให้สิ่งที่แตกต่างกับ เอฟเวอร์ตัน ในการคิด และท้ายที่สุด การอัดฉีดคุณภาพก็พิสูจน์ให้เห็นถึงความแตกต่าง
กุนซือชาวเยอรมันเสริมว่า “พวกเขาทำในสิ่งที่ควรเปลี่ยนตัว พอใจกับผลกระทบของพวกเขา บอยส์เข้ามาด้วยทัศนคติที่ถูกต้อง” ดิว็อคมีส่วนกับประตู และนั่นช่วยได้มากโดยเฉพาะเมื่อคุณเล่นกับบล็อกต่ำ เราไม่ดีในครึ่งแรก
“ครึ่งแรกคือ 0-0 คุณมีโอกาสที่ดีในการปรับปรุง นั่นคือสิ่งที่เราทำและเราชนะ” สถานการณ์ในตารางนั้นชัดเจนสำหรับเรา ถ้าคุณต้องการชนะเกม คุณต้องเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ เราพยายามปรับเกมเช่นกันในการป้องกัน แอนโธนี่ กอร์ดอนอยู่ข้างหลังสองสามครั้ง
“เราบอกให้เทรนต์ลงเล่นให้ลึกกว่านี้อีกหน่อย เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าภัยคุกคามมาจากไหน นั่นคือสิ่งที่มันเป็น แต่ในฟุตบอลถ้าคุณไม่เสี่ยง… มันง่ายที่จะปรับปรุงจากครึ่งแรก”
เอฟเวอร์ตันไม่มีโอกาสได้จุดโทษในเกมที่พ่ายลิเวอร์พูล แฟรงค์ แลมพาร์ดกล่าวเกี่ยวกับการตัดสินใจจุดโทษ ‘สโตนวอลล์’
แฟรงค์ แลมพาร์ด พูดถึงการตัดสินใจของสจ๊วร์ต แอตเวลล์ ในการโบกมือให้แอนโธนี่ กอร์ดอน ยิงจุดโทษในเกมที่เอฟเวอร์ตันเอาชนะลิเวอร์พูล 2-0 ว่า “มันเป็นจุดโทษในครึ่งหลัง ผมไม่คิดว่าคุณจะเอามันมาที่นี่ ผมคิดว่าถ้านั่นคือโม ซาลาห์ อีกด้านหนึ่ง เขาได้จุดโทษ”
แฟรงค์ แลมพาร์ด นายใหญ่ของเอฟเวอร์ตัน อ้างว่าฝ่ายค้านจะไม่มีวันได้จุดโทษที่ “กำแพงหิน” เจมี่ คาร์ราเกอร์ รู้สึกว่าทีมของเขาสมควรได้รับในการพ่ายแพ้ 2-0 ที่ลิเวอร์พูล บ้านผลบอลวันนี้
แอนโธนี่ กอร์ดอน ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกจองให้ดำน้ำโดยผู้ตัดสิน สจ๊วร์ต แอตต์เวลล์ ดูเหมือนจะถูกกระแทกพื้นโดยโจเอล มาติปปราการหลังของลิเวอร์พูลขณะที่ทั้งสองคนไล่ตามลูกบอลหลังเกมรับในบ้านโดยไร้สกอร์ที่แอนฟิลด์
แอตท์เวลล์ โบกมือลาการขอจุดโทษจากนักเตะวัย 21 ปีโดยที่ วีเออาร์ ก็ปฏิเสธที่จะเข้าไปแทรกแซง การตัดสินใจของ คาร์เรเกอร์ บอกปฏิเสธ เอฟเวอร์ตัน ว่าจุดโทษที่ชัดเจน – แต่สิ่งหนึ่งที่เขาเสริมอาจได้รับอิทธิพลจากการจำลองที่รับรู้ก่อนหน้านี้ของกองหน้า .
“เขาต้องระวัง แอนโธนี่ กอร์ดอน เขาเป็นผู้เล่นในท้องถิ่น และผมรู้จักเพื่อนและครอบครัวของเขาบ้าง” คาร์ราเกอร์กล่าว “เขาเป็นนักเตะและเด็กที่ยอดเยี่ยม หนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในสนามในวันนี้”
“เขาสร้างปัญหาใหญ่ให้ลิเวอร์พูล มันไม่ใช่คนแรกในครึ่งแรก เขาแค่ต้องระวังเรื่องนี้ มันจะอยู่ในหัวกรรมการแน่นอน และบางทีเขาอาจไม่ได้สิ่งที่เขาสมควรได้รับเพราะเกิดเหตุการณ์ไม่กี่อย่าง ในอีกสามหรือสี่เกม แต่นั่นก็บอกว่ามันเป็นจุดโทษสโตนวอลล์”
มันเป็นมุมมองที่ใช้ร่วมกันโดย แกรม ซูเนสส์ ผู้ซึ่งกล่าวว่าผู้เล่นของ ลิเวอร์พูล จะเตือน แอตท์เวลล์ ถึงความผิดทางอาญาก่อนหน้านี้ของ กอร์ดอน ในขณะที่เขาพิจารณาว่าจะให้จุดโทษหรือไม่
“ในครึ่งแรก เด็กหนุ่มถูกจองตัวเพื่อดำน้ำ เขาต้องออกจากตรงนั้น เพราะทันทีที่ผู้ตัดสินกำลังมองหามัน เขาอาจจะได้มันหากเขาไม่ได้ดำน้ำในครึ่งแรก” ซูเนสส์กล่าว
“เขาหว่านเมล็ดพืชไว้ในหัวกรรมการ และถ้าเราเป็นผู้เล่นข้างนอก แสดงว่าเราอยู่ในหูของผู้ตัดสิน เรียกเขาว่านักประดาน้ำ ดังนั้น คุณกำลังปลูกเมล็ดไว้ในหัวของผู้ตัดสินด้วย”
แลมพาร์ดรู้สึกว่าการตัดสินใจของ แอตท์เวลล์ ในการโบกมือให้การประท้วงของกอร์ดอนได้รับอิทธิพลจากฝูงชนในบ้านที่อึกทึกที่แอนฟิลด์
ซึ่งลิเวอร์พูลไม่ได้ให้จุดโทษแม้แต่จุดเดียวในพรีเมียร์ลีกตลอดทั้งฤดูกาล
เขากล่าวว่า: “มันเป็นจุดโทษในครึ่งหลัง ฉันไม่คิดว่าคุณจะเอามันมาที่นี่ ฉันคิดว่าถ้านั่นคือ โม ซาลาห์ ที่ปลายอีกด้าน เขาจะได้จุดโทษ
“ฉันไม่ได้พยายามสร้างความขัดแย้งที่นั่น ฉันแค่คิดว่ามันเป็นเรื่องจริงของฟุตบอลในบางครั้ง บางทีฉันอาจเคยเล่นให้กับสโมสรในบางครั้งที่จุดสูงสุดของลีก โดยมีฝูงชนอยู่เบื้องหลัง คุณได้อะไรมากกว่าที่คุณทำไม่ได้ .
“ลูกที่สองของแอนโธนี่คือฟาวล์ มันเป็นฟาล์วที่ชัดเจน แต่คุณไม่เข้าใจพวกเขาที่นี่”
ในเกมที่มักจะขู่ว่าจะเดือด ซาดิโอ มาเน่ ถูกเตือนให้กดหน้าอัลลันก่อนจบครึ่งแรกระหว่างการทะเลาะวิวาทหลังจากฟาบินโญ่ที่ดูน่ารังเกียจของริชาร์ลิสัน แต่รีเพลย์แสดงให้เห็นว่ากองหน้าลิเวอร์พูลโชคดีที่ไม่ได้รับการไล่ออกจากสนาม
นอกจากนี้ ยังมีภาพที่เขาใช้นิ้วดันเข้าไปที่ใบหน้าของเมสัน โฮลเกต ปราการหลังของเอฟเวอร์ตันในเหตุการณ์เดียวกัน ในช่วงเวลาที่ทั้ง แอตท์เวลล์ และเจ้าหน้าที่ วีเออาร์ ไม่ได้พลาดไป
ซูเนสส์กล่าวถึงเหตุการณ์ในครึ่งแรกว่า: “มาเน่โชคดี เขาผลักอัลลันและพยายามจะแหย่ เมสัน โฮลเกต เช่นกัน มันไม่ใช่การกดดัน โฮลเกต เขาเอานิ้วออก มีเจตนามากกว่าแค่การผลัก”
