ชวดได้จุดลูกโทษ ก่อนที่จะทดเจ็บจะมายึดประตูของ ชาควิลล์ ทำให้เปิดรังเจ๊า

ชวดได้จุดลูกโทษ เริ่มเกมการประลองมาในตอน 15 นาทีแรก เป็นทางฝั่งทีมเยี่ยมที่มีจังหวะได้ลุ้นก่อน 2 ครั้งจาก โมฮาเหม็ด เอลยูนุสซี่ กับ อดัม อาร์มสตรอง ที่ได้ยิงไปคนละครั้ง แต่ว่าไปติดบล็อค ส่วนเจ้าถิ่น “เรือใบสีฟ้า” กลับไม่มีจังหวะจบสกอร์เลย ทำให้ทั้งคู่ทีมยังเท่ากันอยู่ 0-0

ชวดได้จุดลูกโทษ

ครั้งที่ 21 กาเบรียล เชซุส ขยับออกไปรับบอลทางฝั่งขวา ก่อนสบโอกาส เปิดบอลเข้ามา ในกรอบจุดโทษ แล้วเป็น อิลคาย กุนโดกัน ที่ใส่ขึ้นมมาโหม่ง แต่ว่าบอลโด่งผ่านคานออกหลังไป การเคลื่อนที่หลัง

ถัดมาในนาทีที่ 26 เจ้าถิ่นครอบครองบอลบุกอย่างสม่ำเสมอ ก่อนเป็น แจ็ค กรีลิช ที่ได้บอลทางฝั่งซ้าย ก่อนจ่ายทะลุช่องให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้โอกาสยิงด้วยขวาแม้กระนั้นบอลโค้งหลุดเสาออกหลังไป

เกมดำเนินถึงนาทีที่ 45 จังหวะยิงตรงกรอบแรกของเกมนี้เป็นของฝั่งทีมเยี่ยม จากจังหวะที่ เช อดัมส์ ส่งบอลให้ โมฮาเหม็ด เอลยูนุสซี่ สบโอกาสทำประตู บอลพุ่งเข้ากรอบ แต่ว่ายังเป็น เอแดร์ชอน โมราเอส ที่ปัดบอลออกไปได้ หมดเวลาการแข่งขันชิงชัยครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ ยังเสมอกับ เซาธ์แฮมป์ตัน 0-0

เริ่มครึ่งหลังมาในระหว่างที่ 54 เจมส์ วอร์ด-เพร้าส์ เข้าไปแย่งบอลจาก อิลคาย กุนโดกัน

ก่อนบอลจะมาเข้าทาง เช อดัมส์ ได้โอกาสเลี้ยงบอลขึ้นมาหน้ากรอบจุดโทษ ก่อนที่จะตัดสินใจยิงแม้กระนั้นบอลหลุดเสาออกหลังไป ถัดมาในนาทีที่ 60 ไคล์ วอล์คเกอร์ ส่งบอลไปติด เนธาน เร้ดมอนด์ ก่อนบอลมาเข้าทาง อดัม อาร์มสตรอง ได้จังหวะเลี้ยงบอลเข้ามาในกรอบจุดโทษ บ้านผลบอล

ชวดได้จุดลูกโทษ

ก่อนโดน ไคล์ วอล์คเกอร์ เข้ามาสะกัดล้ม ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดลูกโทษโดยทันทีพร้อมแจกใบแดงให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ ก่อนที่จะวีเออาร์จะเช็กจังหวะดังกล่าวและก็ยกเลิกจุดโทษไป

และใบแดงของกองหลัง “เรือใบสีฟ้า” นาทีที่ 90+1 ฟิล โฟเด้น ได้จังหวะโหม่งบอลไปติดเซฟของ อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ ปัดออกมาเข้าทาง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้โอกาสยิงซ้ำเข้าไป

ผู้ช่วยผู้ตัดสินยอมแพ้เป็นจังหวะล้ำหน้า ก่อนที่จะวีเออาร์ จะรับรองจังหวะดังที่กล่าวมาข้างต้นว่าเป็นจังหวะล้ำหน้า ขณะที่เหลือจากนั้นไม่มีกลุ่มใดซึ่งสามารถทำแต้มเสริมเติมได้

หมดเวลาการแข่งขันชิงชัย แมนฯ ซิตี้ เปิดรังเสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน ไป 0-0 แบ่งกันไปทีมละแต้ม ทำให้ “เรือใบสีฟ้า” มีเพิ่มเป็น 10 คะแนน รั้งอันดับ 2 ของตาราง ตอนที่ “นักบุญ” เสมอ 4 เกมติด รั้งชั้น 15 ของตาราง

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, นาธาน อาเก้, ชูเอา กานเซโล่ – แบร์นาโด้ ซิลวา (ฟิล โฟเด้น น.73), แฟร์นานดินโญ่ (เควิน เดอ บรอยน์ น.69), อิลคาย กุนโดกัน – ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, กาเบรียล เชซุส (ริยาด มาห์เรซ น.70 ), แจ็ค กรีลิช https://www.tatras-japan.com

เซาธ์แฮมป์ตัน (4-1-4-1) : อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ – วาเลนติโน่ ลิฟราเมนโต้, ชวดได้จุดลูกโทษ แจ็ค สตีเฟ่นส์ (โมฮัมเหม็ด ซาลิซู น.37), ยาน เบดนาเร็ค, ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส – โอริโอล โรเมว – เนธาน เร้ดมอนด์, เจมส์ วอร์ด-เพร้าส์, โมฮาเหม็ด เอลยูนุสซี่, เช อดัมส์ (อาร์มานโด โบรยา น.70)- อดัม อาร์มสตรอง