อยู่กับปัจจุบัน โจเซป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนฯ ซิตี้ ระบุ แม้ว่าจะเอาชนะ หงส์แดง 4-0 สำหรับการเจอกันครั้งปัจจุบันได้

อยู่กับปัจจุบัน โจเซป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บอกว่าการที่กลุ่มของตัวเองเคยเปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม ไล่กระหน่ำ หงส์แดง 4-0 ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ช่วงปลายฤดูก่อน มันไม่มีความหมายอะไรทั้งหมดสำหรับเกมที่ทั้งยัง 2 กลุ่มจะพบกันในวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ย.นี้

ในช่วงเวลานี้ หงส์แดง ส่งผลงานในลีก โดยรวมดียิ่งกว่าแต่ หลายคนก็เห็นว่า “เรือใบสีฟ้า” ยังได้โอกาสชนะเยอะ ในระดับหนึ่ง เนื่องจากว่าพวกเขาได้เล่นในบ้านของตน แล้วก็คราวปัจจุบันที่ดวลกัน นั้นกลุ่มของ ก็ชนะไปแบบขาดลอยด้วย บ้านผลบอล ภาษาไทย

“นี่มันเป็นฤดูใหม่แล้ว เวลานี้พวกเขาเป็นแชมป์ไปแล้วเป็นระเบียบ รวมทั้งบุกมาเยี่ยมพวกเราเพื่อทำคะแนนให้ได้เกิน 100 แต้มแค่นั้น ในขณะนั้นพวกเขารับประกันแชมป์ไปแล้ว ส่วนพวกเราก็ได้สิทธิ์เล่น แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปแล้ว ในขณะนั้นมันต่างกับในขณะนี้ ตอนนี้มันจะแตกต่างกันออกไปสำหรับอีกทั้ง 2 กลุ่ม ผมไม่สนใจสมัยก่อนเท่าไรนักหรอก ไม่ว่าจะเป็นอดีตที่ดีหรือแย่ก็ตาม” กวาร์ดิโอล่า กำหนด

อดีตนายใหญ่ บาร์เซโลน่า และก็ บาเยิร์น มิวนิค เสริมว่าการพบกับ หงส์แดง จะเป็นงานที่ยากสุดๆ”เมื่อคุณจะต้องพบกับกลุ่มอย่าง หงส์แดง แล้วน่ะ คุณจะพบงานยากอยู่เป็นประจำนั่นแหละ

พวกเราจำเป็นต้องอุตสาหะใช้ข้อดีของพวกเราให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำเป็น พวกเรารู้จักกันและกันออกจะดีเลย พวกเราเคยดวลกันหลายครั้ง และก็ผมก็ไม่คิดว่าพวกเราหรือพวกเขาจะเล่นได้ดีตลอดทั้ง 90 นาทีหรอก มันจะมีอีกทั้งตอนที่ทำผลงานก้าวหน้ารวมทั้งเล่นได้ห่วยแตก พวกเราควรจะมีความยั่งยืน, ทำแต้มจากจังหวะที่มีให้ได้ และก็เล่นให้เฉียบคม ทั้งยัง 2 กลุ่มต่างก็ต้องการเล่นเกมบุกกันทั้งสอง” ยกนิ้วเลย

โจเซป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ กำหนด “เรือใบสีฟ้า” จบสกอร์กันได้ไม่ดีเท่าไร ทำให้จำเป็นต้องรอคอย จนกระทั่งช่วงท้ายเกม กว่าจะได้ลูกลำดับที่สอง ในเกมที่ชนะ โอลิมแฉะอส 3-0 แต่ว่ายังดูฟอร์มโดยรวมในตอน 15 นาทีแรกกับ 15 นาทีสุดท้ายที่ทำเป็นน่าประทับใจ

โจเซป กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยอดสมาคมของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พูดว่ากลุ่มของตัวเองยังจบสกอร์กันได้ไม่ดี สักเท่าไหร่ ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป ซี นัดหมาย ที่เปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม เอาชนะ โอลิมแฉะอส 3-0 เมื่อวันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ ออกนำตั้งแต่นาทีที่ 12 จาก เฟร์ราน ตอร์เรส แม้กระนั้นพวกเขาก็จำเป็นต้องรอคอยจนกระทั่งตอน 9 นาทีท้ายที่สุดของเกม กว่าที่จะมาได้ประตูที่ 2 จาก กาเบรียล เชซุส ก่อนที่จะ ยกเอา กานเซโล่ จะทำคะแนนจบท้ายในนาทีที่ 90 ทำให้กลุ่มของ เก็บได้ 9 คะแนนเต็มจากการลงเล่น 3 นัดหมาย

กวาร์ดิโอล่า เปิดเผยว่า “พวกเราพลาดโอกาสที่จะทำคะแนนให้ได้มากกว่านี้ ทั้งๆที่จริงๆพวกเราน่าจะจะต้องจบเกมในแบบงั้นให้ได้ เวลาที่พวกเรานำอยู่เพียงแค่ 1-0 น่ะเกมมันยังออกได้ทุกหน้า

พวกเขาเองก็สร้างช่องทางทำแต้มได้ แม้กระนั้นเพียงพอพวกเราได้ลูกลำดับที่สองแล้วเกมมันก็จบลงในทันที วันนี้พวกเราเล่นก้าวหน้ามากมายๆในตอนครึ่งแรก การจ่ายบอลกับการยิงในจังหวะในที่สุดมันยังไม่สมบูรณ์แบบเท่าไร แต่ว่าโดยรวมแล้วพวกเราเล่นเจริญในตอน 15 นาทีแรกกับ 15 นาทีในที่สุด”

ดีทมาร์ ฮามันน์ สมัยก่อนมิดฟิลด์คนที่ใครๆก็รู้จัก แสดงความเห็นว่า โจเซป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมฟุตบอล แมนเชสเตอร์ สมาพันธ์ดัง ของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ โชคดีสุดๆที่ยังไม่โดนปลดออกจากตำแหน่ง ทั้งๆที่ยังไม่อาจจะพาทีมได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครอบครองได้สักครั้ง

อยากได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก มากมายๆจน กระทั่งตกลงใจดึง มาคุมกลุ่มเมื่อปี 2016 รวมทั้งช่วยเหลือ การเสริมกองทัพของเขาอย่างมาก แม้กระนั้นจนแล้วจนรอด ก็ยังไม่อาจจะนำถ้วย “บิ๊กเอียร์” มาประดับตู้โชว์ของชมรมได้สักครั้ง แถมแท้จริงสมัยก่อนนายใหญ่ บาร์เซโลน่า กับ บาเยิร์น มิวนิค ก็ไม่เคยพา “เรือใบสีฟ้า” ผ่านรอบก่อนรองชนะเลิศได้ด้วย ในขณะที่ในเวลานี้อนาคตของเขาก็เต็มไปด้วย ความไม่เที่ยง เพราะเหตุว่าเจ้าตัวจะหมดสัญญากับกลุ่มในตอนซัมเมอร์ ปีถัดไปแล้ว

ฮามันน์ ซึ่งเคยเล่นให้ทั้งยัง บาเยิร์น, หงส์แดง และก็ แมนฯ ซิตี้ พูดว่า “ทดลองดูสถิติของพวกเขาใน แชมเปี้ยนส์ ลีก สิ ผมบอกเลยว่าถ้าเกิดเป็นกุนซือบุคคลอื่นน่ะตอนนี้อาจจะโดนไล่ออกไปแล้ว

อยู่กับปัจจุบัน ผมรู้สึกว่ากระดานบริหาร อาจเชื่อถือกับประวัติศาสตร์ ที่เขาเคยทำเอาไว้กับที่ บาร์เซโลน่า นั่นบางครั้งอาจจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้ เขายังได้ อยู่ในตำแหน่ง มาจนกระทั่ง ในตอนนี้”

เขาไม่สามารถที่จะพา บาเยิร์น มิวนิค หรือ แมนฯ ซิตี้ ไปถึงรอบชิงแชมป์ (ของศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก) ได้เลย ทั้งๆที่กลุ่มอื่นๆในตอนนั้นที่ไปถึงรอบชิงแชมป์ได้น่ะต่างก็ไม่ได้มีงบประมาณกระบวนการทำกลุ่มอย่างมากมายเช่นเดียวกับเขา มันไม่ใช่ผลงานที่ดีเพียงพอ

หากคุณทดลองย้อนมองว่ามีกลุ่มไหนบ้างที่เคยเอาชนะพวกเขาได้แล้วน่ะมันก็ทำให้ผมสงสัยอย่างยิ่งว่ามันจึงควรกำเนิดอะไรขึ้นถึงจะมีผลให้มีการเปลี่ยนสักครั้ง จริงอยู่ว่าเราไม่ชอบที่บรรดาผู้จัดการทีมฟุตบอลชอบโดนให้ออกจากตำแหน่ง แม้กระนั้นผมมีความรู้สึกว่าถ้าหากเป็นผู้อื่นน่ะคงโดนไล่ออกไปแล้ว”